“จี๊บ เทพอาจ” ยอมรับจบกับ "บอย โกสิยพงษ์" ไม่สวย ทะเลาะนาน 2 ปี
“จี๊บ เทพอาจ” ยอมรับจบกับ "บอย โกสิยพงษ์" ไม่สวย ทะเลาะนาน 2 ปี เพราะมีบุคคลที่ 3 เข้ามาทำให้ทะเลาะกัน
เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนมือผู้บริหารครั้งสำคัญของวงการเพลง เมื่อ 10 กันยายน ปี 2563 ค่ายเพลงดังอย่าง LOVEiS ที่บริหารงานโดย "บอย โกสิยพงษ์" ซึ่งเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 ตัดสินใจยุติบทบาททั้งในฐานะกรรมการและผู้ถือหุ้น พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดให้ "จิ๊บ เทพอาจ" เข้ามาบริหารแทน โดยที่ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เคยได้ออกมาพูดถึงการเปลี่ยนขั้วบริหารแบบกะทันหัน
ภาพจาก IG jeep_loveis
ล่าสุด "จี๊บ" ได้มาเปิดใจในรายการ Woody FM ยอมรับว่าจบกับเจ้าของค่ายเก่าไม่ดี ทะเลาะนาน 2 ปี ไม่มีใครรู้ โดยเผยว่าพูดอย่างสุภาพก็ซื้อหุ้นแล้วแยกย้ายกัน ในอารมณ์ที่คงไม่ค่อยบวกนัก มันถึงได้ไม่มีข่าว ไม่มีใครให้ข่าวอะไร ถ้ามันจากกันด้วยดีก็คงเป็นข่าวที่มันบวกกว่านี้เยอะ แต่มันอยู่ดีๆ ก็ดีดนิ้วเลยแล้วกลายเป็นพี่มาทำ แน่นอนมันก็คงต้องมีอะไรอยู่ในนั้น หลังเกิดเรื่องไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ตั้งแต่เข้ามาตอนแรก ส่งคนมาช่วยฟรี แปลว่าเขาส่งคนมาแล้วผมจ่ายเงินเดือน ให้ช่วยอย่างเดียวไม่ได้คิดมาก อยากช่วยจริง ๆ วันนั้นพี่นภ พรชานิ บอกว่าพี่บอยจะเลิกแล้ว ผมก็เฮ้ย ผมรักเพลงเบเกอรี่ ผมรัก LOVEiS จะเลิกอะไร เขาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่อยากทำต่อ ผมเลยบอก เอางี้ เดี๋ยวผมเข้าไปช่วยแล้วกัน ช่วยสักพัก เริ่มมีสัญญาณว่ามาหุ้นกัน ผมบอกว่าได้ ผมขอหุ้น 1% เปอร์เซ็นต์ ผมถามก่อนเลยว่าเป็นธุรกิจที่พี่จะให้ลูกหลานหรือเปล่า ผมมีธุรกิจ ผมเข้าใจ ถ้าพี่จะเก็บไว้ให้ลูกให้ ภรรยาผมไม่อยากยุ่ง เขาก็ตอบว่าไม่ ไม่มีใครสนใจ และให้ผมเข้ามาหุ้น งั้นผมขอหุ้นเปอร์เซ็นต์เดียว ผมจะได้รู้สึกมีความเป็นเจ้าของ แต่ไม่ได้อยากไปเบียดเบียนพี่ ไม่ได้ต้องหุ้นกันครึ่ง ๆ 50/50 ยังไงก็ได้สำหรับพี่ แต่ครึ่ง ๆ เวลามีปัญหาจะลำบาก สิ่งที่ผมกังวลคือ ลำบากกันสองคนไม่ว่า อย่าให้คนอื่นลำบากด้วย ผู้ใหญ่ทะเลาะกันอย่าให้เด็กกระเทือนด้วย แต่วันนั้นที่จำเป็นต้องขนาดนั้น เพราะเด็กเริ่มลำบากด้วย พอมันไม่ลงล็อกกัน ทำให้เด็ก ๆ ได้รับผลกระทบเรื่องเงิน เรื่องนู่นนี่ ผมก็ถึงจุดโมโหเหมือนกัน เราทะเลาะกันก็เป็นเรื่องของ 2 คน ทั้งพนักงาน ทั้งศิลปินเกี่ยวอะไร อย่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน เลยมาว่ากันว่าทางออกจะไปทางไหน ก็คุยกันอยู่ประมาณ 2 ปี อยู่ในภาวะนั้น 2 ปี ไม่มีใครรู้”
ภาพจากIG boydkosiyabong
“ถ้าคุยดี ๆ มันง่ายมากเลย แต่บังเอิญมันมีมือที่ 3 ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา พอเอาคนนี้เข้ามาทุกอย่างพัง เวลาผมอยู่กันสองคนผมคุยหัวเราะเล่นกันด้วยซ้ำ แม้แต่ตอนทะเลาะกันก็หัวเราะกันได้ แต่ทุกอย่างดีเสมอ สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ 50/50 ไม่มีอีกแล้ว และเรียนรู้ว่า ผมเปลี่ยนคนทุกคนบนโลกไม่ได้ ถึงแม้เราจะพยายามแค่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นเปลี่ยนตัวเองก่อน ให้ไม่มีนิสัยไปชอบเปลี่ยนคน พอรู้สึกอย่างนั้นได้ มันก็ง่ายขึ้นกับชีวิต รู้สึกถอยลงมา แปลว่าไม่มีความคาดหวังในคนที่เราทำงานด้วยมากขนาดนั้น ถามว่าถึงวันนี้อยากให้ LOVEIS ในฝันเป็นอย่างไร เราเปลี่ยนจากคำว่า LOVEIS เป็น LOVEIS Entertainment นั่นแปลว่าเราควรจะมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ในการเอ็นเตอร์เทนคน ไม่จำกัดเฉพาะเพลง จริง ๆ ให้คอนเซ็ปต์ทีมงานไปแล้วว่าภายใน 5 ปีนี้ ต้องมากกว่าเรื่องเพลงไม่ว่าจะมุมใดมุมหนึ่งที่เกี่ยวกับวงการบันเทิง"
ภาพจาก IG jeep_loveis
ภาพจาก IG jeep_loveis