

สรุปข่าว
ก่อนหน้านี้ "หมวย สุภาภรณ์" เปิดใจชีวิตของเธอผ่าน วันบันเทิง – one บันเทิงว่า จากวันที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เงินกลับหายไปหมด เนื่องจาก ตนเองเป็นหนี้นอกระบบ รวมถึงหนี้ที่คนสนิทที่ไว้ใจช่วยอีกร่วมล้าน และหนี้ที่ตัวเองตั้งใจที่จะเป็นหนี้เลยอีกประมาณ 3 ล้าน เนื่องจาก ใช้ชีวิตด้วยความประมาท ยอมรับสิ่งนี้ต้องโทษตนเอง และอย่าไปโทษคนอื่น
พร้อมกับเผยว่าก่อนหน้านี้เคยใส่รองเท้าคู่ละ 2 แสนบาท และเคยถือเงินที่เยอะที่สุดหลักหลายล้าน พอเดินเข้าไปในช้อป เขาทักเราก็ต้องซื้อ ซึ่งชีวิตเกิดมาในครอบครัวที่เรียกว่ารวย ระดับที่ไม่มีแค่เครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างของครอบครัวจะเป็นกงสี มีลูก 7 คนและก็มีคนใช้ 7 คนเพื่อประกบทีละคน เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้จักคำว่าลำบากคืออะไร
ซึ่งที่ผ่านมาคุณพ่อก็คอยเตือนตลอดว่า คนเราไม่มีอะไรยั่งยืน เกิดก็ต้องดับ อีกทั้งตอนที่ไปเมืองนอก 3 เดือนกว่า คุณพ่อก็จะแจกเงินลูกๆทุกวัน วันละ 3,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งหมวยเองก็ใช้เงินที่คุณพ่อให้หมดทุกวันกับของปัญหาอ่อนและไร้สาระ
พอเริ่มโตขึ้นมาก็ได้เริ่มเรียนรู้ แต่อาจจะเริ่มรู้น้อยกว่าคนอื่น และไว้ใจทุกคนเหมือนทุกคนเข้ามาหาจริงใจหมด แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เปิดเผยต่ออีกว่าคุณพ่อนั้น ท่านจบชีวิตของตนเอง เนื่องจาก โดนโกงไปแค่ 700 ล้านบาทเองซึ่งมันน้อยมาก แล้วครอบครัวพี่น้อง 7 คนก็แตกไปหมดแล้ว
พูดถึงที่ชีวิตต้องมาลำบาก เพราะข้อแรกความประมาทในการใช้เงิน , ข้อที่สองความโชคไม่ดีที่ลงทุนอะไรก็โดนโกงหมด และข้อที่สามเป็นคนรักใครแล้วรัก พอเวลาเขาบอกว่าลำบากมีเท่าไรก็สามารถให้ได้หมด โดยไม่มองตนเองว่าจะมาถึงวันนี้
ก่อนที่ "หมวย สุภาภรณ์" ให้ดูหมายเรียกที่ตนเธอไปยอมรับสภาพหนี้ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เงิน แต่ได้ไปตีเช็กค้ำประกันเขา และถ้าในวันที่ 1 ก.พ. 65 ไม่มีเงิน 5,000 บาทในการผ่อนจ่ายเขา ก็ต้องไปอยู่ในคุก
เล่าอีกว่า ยอมรับมีความคิด สู้ไม่ไหวจนไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ แต่ห่วงอยู่อย่างเดียว คือ เอาน้องหมาไปให้พี่สาวด้วย เพราะ ตัวหมวยทำชีวิตตนเองให้มาถึงตรงนี้เอง แล้วจะห่วงทำไม ซึ่งชีวิตเป็นของตนเองเลือกเอง เพราะฉะนั้นไม่โทษใคร
และยังมีอาการป่วยเป็นไบโพล่าร์ อารมณ์ 2 ขั้วอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และ ซึมเศร้า จึงทำให้ขาดยาไม่ได้ และจึงจำเป็นต้องทานยาเพื่อกำกับอารมณ์ไว้ แล้วตอนนี้ยังติดเงินคุณหมออยู่ 3,000 บาท ถ้าวันที่ 14 ก.พ.65 ไม่ใช้เงินหมอ 3,000 ก็จะไม่มียาทานแล้ว และถ้าไม่ได้กินยาก็จะไม่ได้นอน 10 วัน สุดท้ายวอนต้องการโอกาสในการทำงานกลับมาเล่นละคร รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ตนเองได้รังสรรค์ขึ้นมาให้ออกสู่ตลาด
สำหรับประวัติของ หมวย สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์
กัญกร คำนวณศิลป์ หรือ สุปรีย์ฎา คำนวณศิลป์ หรือชื่อเดิม สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ ชื่อเล่น หมวย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2515 เป็นนักแสดงชาวไทยเชื้อสายจีน มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เป็นคนที่ 4 จบการศึกษาที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา ได้แสดงละครตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เรื่องแรกปี พ.ศ. 2530 คือ ผีกุ๊กกิ๊ก และได้หายจากวงการละครไปเนื่องจากทางครอบครัวเห็นว่ายังเด็กอยู่
และต่อมาในปี พ.ศ. 2534 หมวยได้กลับมาแสดงละครโดยรับบทนางรองในละครเรื่อง แม่หญิง เป็น หม่อมเจ้าหญิงภาณุกา รังษี หรือ ท่านหญิงเล็ก และละครเรื่อง "พี่เลี้ยง" ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกของ รชนีกร พันธุ์มณี โดยรับบทเป็น เวณิกา เพื่อนนางเอกที่หลงรักพระเอก ซึ่งกลับมาโดยการชักนำของคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์
จนต่อมาได้รับละครเรื่อย ๆ ในเรื่อง วันนี้ที่รอคอย , ผู้ชายไม้ประดับ , คือหัตถาครองพิภพ จนกระทั่งมาแจ้งเกิดในบทนางร้าย เช่น เหม่เกว่ (โรส) คุณนายที่ 3 ในละครเรื่อง มงกุฎดอกส้ม, เจ้านางละอองทอง ในละครเรื่อง ปอบผีฟ้า และ เนื้อเย็น ในละครเรื่อง คมพยาบาท
นอกจากนี้ หมวย ยังเคยแสดง มิวสิกวิดีโอ ของ 2 ศิลปินระดับประเทศอย่าง อัสนี-วสันต์ ในเพลง “เธอปันใจ” (พ.ศ. 2533) และ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เพลง “ขออุ้มหน่อย” (พ.ศ. 2534) อีกด้วย
รางวัล
(เข้าชิง) รางวัลเมขลา ครั้งที่ 9 ประจำปี 2535 สาขาดาราประกอบหญิงหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง แม่หญิง
(เข้าชิง) รางวัลเมขลา ครั้งที่ 10 ประจำปี 2536 สาขาดาราประกอบหญิงหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง วันนี้ที่รอคอย
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2536 สาขาดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง วันนี้ที่รอคอย
รางวัลเมขลา ครั้งที่ 13 ประจำปี 2539 สาขาดาราประกอบหญิงดีเด่น จากละครเรื่องมงกุฎดอกส้ม
(เข้าชิง) รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2539 สาขาดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น จากละครเรื่องมงกุฎดอกส้ม
ที่มาข้อมูล : -