เลือกตั้ง 2566 ยื่น กกต.สอบปมใหม่ที่ดินมรดก "พิธา"
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่น กกต. ตรวจสอบประเด็นใหม่ บัญชีที่ดินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่มีการหมายเหตุว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากมรดก
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักกฎหมายชื่อดัง ยังคงเดินหน้าตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้เรียกพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการตรวจสอบ กรณี กกต.แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนนายพิธา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 เนื่องจากบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 มีการแสดงรายการที่ดินไว้ 2 รายการ โดยโฉนดที่ดินหมายเลข 13543 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ระบุ วัน เดือน ปี ที่ได้มา เนื้อที่ 14 ไร่ 62.7 ตารางวา มูลค่าประมาณ 18,000,000 บาท และมีหมายเหตุที่ดินแปลงดังกล่าวระบุว่าเป็นทรัพย์ที่ได้รับจากการรับมรดก ซึ่งอาจไม่สอดรับกับข้อมูลที่มีการยื่นเพิ่มเติมกรณีแจ้งการถือครองหุ้นไอทีวี ที่กล่าวอ้างตามปรากฏในสื่อต่างๆ ว่า ยื่นในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก
นายเรืองไกร ขอให้กกต. เรียกพยานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บัญชีแสดงรายการที่ดินดังกล่าวและบัญชีแสดงรายการหุ้น ไอทีวี จากสำนักงาน ป.ป.ช. มาประกอบการตรวจสอบ รวมถึงพยานเอกสารเกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าวจากกรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้เรียกเอกสารการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์หลังโฉนดที่ดิน เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปว่าการรับมรดกในที่ดินแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และนายพิธา เกี่ยวข้องในกรณีใด ด้วยสาเหตุใด อาศัยพยานหลักฐานใดมาแสดง และขอให้ตรวจสอบด้วยว่า การยื่นบัญชีที่ดินเหตุใดจึงหมายเหตุว่า เป็นทรัพย์ที่ได้จากการรับมรดก และมีความแตกต่างจากการยื่นบัญชีเพิ่มเติม กรณีหุ้น บมจ. ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น อย่างไร หรือไม่
ขณะที่ ในวันนี้ สำนักงาน กกต. ได้เผยแพร่บทลงโทษเกี่ยวกับการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดผู้สมัคร ส.ส. ฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษหนักทั้งโทษจำคุก โทษปรับ และการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ตามที่ข้อกฎหมายมาตรา 143 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 กำหนดว่า กรณีทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดผู้สมัคร ส.ส. ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกตไปถึงบรรดาผู้ยื่นคำร้อง ที่มีการยื่นตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นกรณีถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน เป็นต้น
ข่าวแนะนำ