TNN เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"

TNN

เลือกตั้ง2566

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย

เลือกตั้ง 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง จากกุนซือทีมเศรษฐกิจ "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"

เลือกตั้ง 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง จากกุนซือทีมเศรษฐกิจ "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"


เลือกตั้ง 2566 TNN ช่อง 16 ได้จัดเวที TNN 16 DEBATE เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กับเวทีประชันนโยบายปัญหาปากท้องจากกุนซือทีมเศรษฐกิจ 7 พรรคการเมือง ใน "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย" 

โดยมีพรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้าร่วมดีเบตในครั้งนี้ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา , นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์ , นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ , ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย , ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล , นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย และดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


เวทีประชันนโยบายปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย" เริ่มต้นด้วยคำถาม 


"มุมมองต่อนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย และการหารายได้ของประเทศ?"


- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์


จุดต่างของพรรคประชาธิปัตย์เราสามารถเปลี่ยนเงินในระบบที่มีอยู่ 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต้องกู้ ไม่เป็นภาระงบประมาณ เราสามารถสร้างธนาคารชุมชน กองทุนต่างๆ มาดูแลเรื่องเอสเอ็มอี สำหรับสร้างรายได้ให้ประเทศ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดของประเทศไทย เราจะจัดเขตเศรษฐกิจพิเศษตามจังหวัด ส่งเสริมการลงทุน


- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล


สำหรับการหารายได้ การกระตุ้นค่าใช้จ่าย การกระจายรายได้ให้ทั่วถึง พรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำไปพร้อมๆ กัน เราต้องใช้เงินที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการปฏิรูประบบงบประมาณ เราต้องกระตุ้นงบหมุนเวียนให้ลงไปตรงจุด เราจะส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมใหม่ๆ แก้ไขและยกเลิกกฏระเบียบที่เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชน


เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา 


สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา เราอาจจะมีนโยบายประชานิยมเกือบทุกพรรค แต่จริงๆ การกระตุ้นเศรษฐกิจเราต้องการคนที่มีกำลังซื้อ หรือนโยบายดึงคนเข้ามาท่องเที่ยวหรือนโยบายใหม่ที่ช่วยหารายได้ให้กับประชาชน ส่วนนโยบายรายได้เข้ารัฐ เราต้องดึงคนเข้าระบบภาษีให้มาก ดังนั้นระบบภาษีต้องจูงใจ ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการส่งออก การท่องเที่ยว สิ่งนี้ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงรายได้เข้าสู่ระบบประเทศไทย 


เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า


พรรคชาติพัฒนากล้า มุ่งเรื่องโอกาสนิยมไม่ใช่ประชานิยม โอกาสนิยมจะช่วยลดความเลื่อมล้ำ ยกเลิกระบบแบล็กลิสต์  ลดราคาอัตราดอกเบี้ย เงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี เป็นการเพิ่มโอกาสเอาเงินไปใช้สอย พรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อในโอกาสนิยม


เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย


ทิศทางการออกแบบนโยบายของพรรคเพื่อไทย เราออกแบบมองภาพใหญ่ จะต่อจิกซอว์ให้เป็นรูปอะไร แล้วค่อยหยิบจิกซอว์ตัวเล็กๆ ขึ้นมาว่าจิกซอว์ตัวนี้สอดคล้องภาพใหญ่ที่เราต้องการจะสร้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย Digital Wallet 10, 000 บาท เป็น 1 ใน 70 นโยบายของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แค่การกระตุ้นกำลังซื้อ แต่ใหญ่เพียงพอที่จะไปกระตุ้นภาคการผลิตของประเทศ


เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย

 

การกระตุ้นเศรษฐกิจสิ่งสำคัญคือการกระตุ้นตรงไหนที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมา ถ้าเรากระตุ้นเศรษฐกิจจากคนตัวเล็ก ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน ช่วยเอสเอ็มอี ช่วยภาษีนิติบุคคล เรามีนโยบายบำนาญประชาชน เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน 


เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ


งบประมาณแผ่นดินจะกลับมาทบทวนดูว่าการใช้จ่ายมีประสิทธิภาพหรือไม่ ปิดช่องทางคอร์รัปชันให้มากที่สุด นโยบายพรรคลดค่าใช้จ่ายหลักพลังงาน น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า การใช้จ่ายทั้งหมดถ้าคืนเงินเข้ากระเป๋า จะเกิด VAT 7 % เป็นภาษีที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับประชาชน


"ยกระดับรายได้อย่างสมดุลทั้งในมุมของประชากรและผู้ประกอบการ?"


- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล


พรรคก้าวไกลมองว่าปัญหาตลาดการค้าไทยในปัจจุบันเหมือนห่วงโซ่อาหาร ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ทั้งระบบไปพร้อมๆ กัน ขึ้นค่าแรงปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี 


- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา

การหารายได้ให้ประชาชน มองว่า ประชาชนที่มีปัญหาหาคือกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและแรงงาน  เราควรเพิ่มความรู้ เพิ่มอาชีพ หางานมากขึ้นเป็นอาชีพเสริม ส่วนการขึ้นค่าแรงกำหนดใหม่เป็นรายชิ้นงานแทนที่จะกำหนดเป็นรายวัน 


- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

พรรคชาติพัฒนากล้าเราไม่มีนโยบายขึ้นค่าแรง เงินเดือนปริญญาตรีเท่าไหร่ เราเชื่อว่าถ้ากำหนดแบบนั้นจะมีปัญหาเงินเฟ้อ ของแพง เชื่อในรูปแบบไตรภาคี ลูกจ้าง นายจ้าง รัฐ คุยกัน อยากเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบประกันสุขภาพให้ครอบคลุม 


- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย


นายจ้าง-ลูกจ้างในระบบเศรษฐกิจต้องเดินคู่กันไป ภาคแรงงานพรรคเพื่อไทยมีกลไกคู่ขนานในการเข้าไปยกระดับรายได้ทั้งภาครัฐและเอกชน การขึ้นค่าแรงไม่สามารถทำอย่างเดียวได้ต้องเพิ่มทักษะให้แรงงานการขึ้นค่าแรง ขึ้นตาม 4 ปัจจัย จีดีพี เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน การคาดการณ์จีดีพีในอนาคต


- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย


การที่เราทำให้ประเทศเศรษฐกิจดี ค่าแรงก็จะดีขึ้นมาเอง เรามุ่งเน้นสร้างเอสเอ็มอีให้เข็มแข็ง ผลักดันอุตสาหกรรมไทยให้แข็งแรง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รายได้ก็จะเกิดขึ้น


- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ


การสร้างสมดุลระหว่างนายจ้าง-ลูกจ้าง ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป การขึ้นค่าแรงต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย


- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์


เศรษฐกิจไทยต้องโตเกิน 5 % พอเศรษฐกิจโตทุกอย่างและบรรยากาศจะดีขึ้น สิ่งแรกคือต้องปลดหนี้ของภาคประชาชน ปรับโครงสร้างหนี้ ลดต้น ลดดอกเบี้ย และต้องดูแลภาคธุรกิจเอสเอ็มอี


"บทบาทการค้าไทยในเวทีโลก?"


- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา


เศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออก ดังนั้นเราต้องแข็งแกร่งทางด้านอุตสาหกรรม ปัจจุบันอุตสาหกรรมศักยภาพของไทยอยู่ที่อันดับ 35 ของโลก ถ้าเราสร้างความแข็งแกร่งเราก็จะแข่งขันกับตลาดโลกได้


- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า


พรรคชาติพัฒนากล้าสนใจเศรษฐกิจต่างประเทศเรื่องที่เร่งด่วนเลยคือเรื่องพลังงาน ราคาไฟฟ้า น้ำมัน แก๊ส รวมทั้งเรื่องการขาดดุลการค้า รวมทั้งเรื่องการเกษตร การต่างประเทศที่ต้องทำเร่งด่วนเกี่ยวกับปากท้องโดยตรง


- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย


พรรคเพื่อไทยเสนอยุทธศาสตร์กังหันลม ไม่ว่าลมจะพัดไปทิศทางไหน กังหันหมุนตามได้และทุการหมุนสามารถสร้างรายได้ได้ จุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลกจะต้องมั่นคง ในแง่ของเศรษฐกิจต้องสร้างประเทศให้เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดเม็ดเงินเข้ามา 


- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย


ถ้าเราอยากยืนในเวทีโลกเราต้องมาดูก่อนว่าเราเก่งในด้านใด ด้านอาหาร เกษตร ท่องเที่ยว ต้องมีการแปรรูปอาหารให้มากขึ้น ใช้ EEC ตั้งหลักให้อุตสาหกรรมที่เราเข้มแข็ง


- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ


จากการสำรวจ อาหารไทย ขึ้นอันดับ 1 โลกหลายอย่าง เรื่องการท่องเที่ยวจึงต้องสอดรับด้านอาหาร การส่งออกเป็นเรื่องสำคัญ


- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์


ประเทศไทยต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ เราต้องต่อยอดด้วยเครื่องมือใหม่ 


- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล


เราต้องทำการต่างประเทศและการทูตเพื่อคนไทยเป็นหลัก ปัจจุบัน เรื่อง เศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ ปัญหาระหว่างพรมแดน เป็นเรื่องเดียวกัน เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การต่างประเทศ




ภาพจาก TNN ช่อง 16 


ข่าวแนะนำ