วิจัยชี้คนไทยนวด-สปา 1-2 ครั้ง/เดือน

รายงานเจาะลึกเทรนด์สุขภาพเวลเนสชาวไทย…โอกาสในธุรกิจมาแรง จาก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เผยแพร่เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 สํารวจความคิดเห็นผู้บริโภคด้านสุขภาพและเวลเนส ผ่านช่องทางออนไลน์ SurveyMonkey ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2023 - 11 สิงหาคม 2023 มีผู้ตอบแบบสอบถามครบถ้วนทั้งสิ้น 1,402 คน

SCB EIC พบว่า ธุรกิจสุขภาพและเวสเนส (Health & Wellness) กำลังมาแรงทั้งในระดับโลกและในไทยเอง โดยมูลค่าตลาดสุขภาพและเวลเนสของไทยมีขนาดใหญ่มากอยู่ที่ราว 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2019 คิดเป็นร้อยละ 8 ของ GDP ไทยโดยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจาก 4 เมกะเทรนด์สุขภาพ ได้แก่ การก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์, พฤติกรรมการใส่ใจสุขภาพมากขึ้นของผู้บริโภค, อัตราการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มสูงขึ้น และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งจะสร้างโอกาสให้แก่ภาคธุรกิจในการเกาะกระแสที่กำลังเติบโต

สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจสุขภาพและเวลเนสด้านบริการและการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง ได้แก่

1.ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นธุรกิจที่กลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยให้ความสำคัญและพร้อมที่จะใช้จ่าย เนื่องจากผู้บริโภคกว่าร้อยละ 70 มีพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหาร ทั้งหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารบางประเภท และเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ 

2.ธุรกิจออกกำลังกาย  เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะในธุรกิจอุปกรณ์เสริมในการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง 

3.ธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านความงาม กลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ กลุ่มผู้หญิงและ LGBTQIA+ เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญและพร้อมที่จะใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ด้านความงามสูง

4.ธุรกิจนวดและสปา เป็นอีกธุรกิจที่มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงาน   สำหรับความถี่ในการใช้บริการนวดและสปาของผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 ครั้ง/เดือน และใช้จ่ายบริการอยู่ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี ในการเลือกสถานที่ใช้บริการ ผู้ใช้บริการนวดและสปาขาประจําจะให้ความสําคัญกับคุณภาพของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้ใช้บริการเป็นครั้งคราวจะเน้นราคาและโปรโมชัน

5.ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงจากกระแสการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้นทั้งในระดับโลกและไทย 

ที่มา TNN