TNN ศก.ยังซึมปี 68 ครึ่งปีแรกว่างงานยังพุ่ง

TNN

เศรษฐกิจ

ศก.ยังซึมปี 68 ครึ่งปีแรกว่างงานยังพุ่ง

“ธนิต โสรัตน์” ประเมินทิศทางการจ้างงาน ปี 2568 เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะนิ่งยาวอย่างน้อยครึ่งปี 2568 กระทบการว่างงานพุ่งแน่ ตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงไตรมาสแรกปีหน้า

ดร.ธนิต โสรัตน์ ประธานสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ และรองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางการจ้างงาน ปี 2568 ว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยปี 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยครึ่งปี 2568  เศรษฐกิจยังอยู่ในสภาวะค่อนข้างนิ่ง ด้วยสภาวะแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมอัตราว่างงานไตรมาสสุดท้ายปี 2567 ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2568 อาจมีผู้ว่างงานมากขึ้น


สำหรับภาพรวมตลาดแรงงานและการจ้างงานนั้น ดร.ธนิต ระบุว่า การขยายตัวหรือหดตัวทางเศรษฐกิจมีผลต่อตลาดแรงงานอย่างเป็นนัย หากภาวะเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดี จะทำให้เกิดการบริโภค ตามด้วยการขยายกิจการและการลงทุนส่งผลต่อเสถียรภาพการจ้างงาน โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจ้างงาน เช่น การขับเคลื่อนการส่งออก ซึ่งเป็นหัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย โซ่อุปทานการส่งออกเกี่ยวข้องตั้งแต่อุตสาหกรรมนำเข้า-อุตสาหกรรมผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ รวมถึงภาคเกษตรกรรมและภาคโลจิสติกส์


ขณะที่อัตราการว่างงานนั้น จากข้อมูลตลาดแรงงานของไทย ณ เดือนตุลาคม 2567 พบว่า มีจำนวนผู้มีงานทำ 39.63 ล้านคน โดยมีผู้ว่างงานประมาณ 387,000 - 390,000 คน ซึ่งอัตราการว่างงานของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 0.97 – 1 โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 41.3 ของผู้ว่างงานจบระดับอุดมศึกษาและสูงกว่า  อีกทั้งผู้ว่างงานใหม่ซึ่งไม่เคยทำงานมาก่อน มีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของผู้ว่างงานทั้งหมดรวมกัน อัตราว่างงานของไทยอาจไม่สะท้อนความเป็นจริง เนื่องจากยังไม่รวมผู้ที่ทำงานไม่เต็มเวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อวันจำนวนประมาณ 184,000 คน คิดเป็นร้อยละ 0.46 ของผู้มีงานทำ


ด้านอัตราการว่างงานของแรงงานในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ณ เดือนตุลาคม 2567 มีจำนวน 216,213 คนสัดส่วนร้อยละ 1.8 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 อัตราการว่างงานร้อยละ 1.93 ในจำนวนนี้มีผู้ที่ว่างงานรายใหม่จำนวน 75,885 คน สูงสุดในรอบ 6 เดือน  อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอัตราว่างงานไตรมาสสุดท้ายปี 2567 ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2568 อาจมีผู้ว่างงานมากขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะนิ่ง การจ้างงานใหม่ชะลอตัว เนื่องจากธุรกิจจำนวนมากขาดสภาพคล่องจนต้องเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ 


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง