โลกร้อนกระทบวงการกีฬา กีฬาหลายชนิดต้องปรับตัว

เริ่มจากการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ หนึ่งในการแข่งขันปั่นจักรยานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ที่จัดการแข่งขันในยุโรป ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ล่าสุดก็ได้มีการพิจารณาให้เปลี่ยนช่วงเวลากิจกรรมและลดระยะเส้นทาง เพราะอากาศที่ร้อนเกินไป หลังพบนักกีฬาป่วยจากวอากาศร้อนมากขึ้น

ตามมาด้วย การแข่งขันโอลิมปิกที่เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อกลางปีที่ผ่านมา จัดขึ้นที่กรุงปารีส  ทั้งคณะกรรมการจัดงาน ผู้แข่งขัน และผู้ชม ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ท่ามกลางการแข่งขันที่ยังต้องดำเนินต่อไป นับตั้งแต่ปารีสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งล่าสุดเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เมืองนี้มีอุณหภูมิอุ่นขึ้น 3.1°C 

ตามมาด้วย กีฬาสกี มีการประเมินว่าการเล่นสกีอาจเปลี่ยนไป เพราะสกีรีสอร์ททั่วโลกกำลังต่อสู้กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น หิมะก็ละลายอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ ผลการศึกษาล่าสุดพบว่าภายในปี 2100 สกีรีสอร์ท 1 ใน 8 ทั่วโลกจะไม่มีหิมะ ตามข้อมูลพบว่าเทือกเขาแอลป์เผชิญกับอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผ่านมา โดยพุ่งสูงถึง 20.9°C ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ยังมี กีฬาวิ่งแข่งมาราธอนด้วย โดยฝ่ายจัดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกปี 2019 ที่กาตาร์เลือกที่จะเริ่มการแข่งขันวิ่งมาราธอนหญิงในเวลา 23.59 น. ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากโดฮามีอากาศร้อนเกินไปในตอนกลางวัน ผลการศึกษาล่าสุดพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้จำนวนเมืองที่มีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาราธอนลดลงถึง 27% ภายในปลายศตวรรษที่ 21 

และเรื่องของหมอกควันไฟป่า ก็มีปัญหาต่อกีฬากลางแจ้งอีกหลายชนิด โดยหมอกควันไฟป่าอาจทำให้อาการป่วยทางเดินหายใจและโรคหลอดเลือดหัวใจรุนแรง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ก็จะเห็นได้ว่าการแข่งขันกีฬาอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะกำลังถูกคุกคามจากวิกฤตสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นมาตรการการปรับตัว ทั้งนักกีฬา และกฎการแข่งขันจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก