เอกชน ชงรัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุน"คนละครึ่ง เฟส4" เป็นของขวัญปีใหม่ให้ปชช.
เอกชน ชงรัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อ "คนละครึ่ง เฟส4" -"ช้อปดีมีคืน" ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มอบเป็นของขวัญให้กับประชาชน คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 0.5-1.5%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอแนวทางให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่งเฟส 4 โดยให้รัฐออกให้ 1,500 บาท เพื่อให้ประชาชนนำมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งขอให้ฟื้นมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากทั้งสองมาตรการได้รับความนิยมและเห็นผลจริง ต่างจากมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะเดียวกันจากกรอบเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ยังเหลืออีกกว่า 2 แสนล้านบาทในการดูแลเศรษฐกิจ รวมถึงจากการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของจีดีพี ทำให้รัฐมีความสามารถในการหาเครื่องมือมาฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อีก ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยประชาชนให้คึกคัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลส่งความสุข
"หากภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมา อยากให้โดนใจประชาชน ควรเรียกภาคเอกชนร่วมหารือเพื่อร่วมออกแบบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเอกชนรู้ความต้องการผู้บริโภค ส่วนของขวัญปีใหม่ ภาคเอกชนอยากให้ภาครัฐออกมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 โดยรัฐออกให้ 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายเดือนมกราคม 2565 เนื่องจากคนละครึ่งเฟส 3 จะสิ้นสุดเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งขอให้ฟื้นมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากทั้งสองมาตรการได้รับความนิยม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยประชาชนได้จริง ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว" นายสนั่นกล่าว
ส่วนสถานการณืการแพร่ระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอนนั้น นายสนั่นกล่าวว่า เวลานี้ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป แต่ควรรับมืออย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้โอไมครอนระบาดในไทยจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมสูงมาก อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นประชาชนและ ผู้ประกอบการอย่างมาก โดยเศรษฐกิจไทยปีหน้าอยากให้รัฐมีนโยบายทั้งระยะสั้นและยาว รวมทั้งควรเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานต่างด้าว ทั้งการขึ้นทะเบียนและการฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนในไทยมีมากพอแล้ว
ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล คือ การลดค่าครองชีพผู้บริโภค รวมทั้งต้นทุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ออกไปอีก 3 เดือน (ธันวาคม 2564-กุมภาพันธ์ 2565) เนื่องจากเป็นมาตรการที่แบ่งเบาภาระค่าครองชีพทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน
ขณะที่ นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับหอการค้า และ ส.อ.ท. คือ อยากได้ของขวัญจากรัฐบาลที่เกี่ยวกับมาตรการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชน อาทิ ขยายมาตรการคนละครึ่งออกไปอีก มาตรการช้อปดีมีคืน ลดค่าน้ำ ค่าไฟ
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ได้คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ 0.5-1.5% การส่งออกเติบโต 13-15% และเงินเฟ้อ 1-1.2% ขณะที่ปี 2565 คาดการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโต 3-4.5% การส่งออก 3-5% และเงินเฟ้อ 1.2-2% โดยเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเติบโต แม้จะมีการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เนื่องจากปัจจุบันไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนให้ประชาชนระดับสูง และมีมาตรการสาธารณสุขการเข้าออกประเทศที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐเร่งฉีดวัคซีนให้ครบตามเป้าหมายครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อรับมือสายพันธุ์โอไมครอนและอนาคต
ข้อมูล : กกร.
ภาพประกอบ : www.คนละครึ่ง.com ,TNN Online