สธ.ยอมรับอัตราการติดเชื้อโควิดไทยยังสูง-วอนอย่ารังเกียจผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่บ้าน
สธ.ขอให้ประชาชนขออย่าได้รังเกียจผู้ที่ติดเชื้อโควิดรักษาอาการต่อที่บ้านหรือหายเป็นปกติแล้ว ขณะที่สถานการณ์ติดเชื้อในประเทศไทย ยังคงอยู่ในระดับที่สูง
วันนี้ ( 15 ส.ค. 64 )นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตจากแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกองระบาดวิทยาอง ได้รวบรวมผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ข้อมูลตั้งแต่ 1 พ.ค.-14 ส.ค. 6,758 ราย พบว่าเป็นกลุ่มอายุ 60-69 ปีขึ้นไป 24% อายุ 70 ปีขึ้นไป 42% รวมกันสูงถึง 68%
อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าสถานการณ์ติดเชื้อในประเทศไทย ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงอัตราผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในระดับ 200 รายต่อวัน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาตรการดูแลประชาชนที่มากขึ้น รวมถึงการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ แอนติเจนเทสคิด และการระดมฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่ก่อนจะเกิดโรคที่รุนแรงรวมถึงในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง
ส่วนแนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อจากการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง และจากโรงเรียนแพทย์ต่างๆ เบื้องต้น ยังคงยึดหลัก 14 วัน โดยนับจากวันเริ่มป่วยวันแรก หากรักษาในโรงพยาบาล แล้วอาการดีขึ้น แพทย์จะพิจารณา ให้กลับมาแยกกักรักษาที่บ้านต่อ จนครบช่วงเวลาที่กำหนด 14 วัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนในชุมชน เข้าใจและมั่นใจ ในแนวทางการรักษา ถึงแม้จะมีเชื้อน้อย อาการโดยรวมปกติ แข็งแรง แต่กลับไปกักตัวรักษาต่อที่บ้าน ภายใต้มาตรการสาธารณสุข ถือว่ามีความปลอดภัยต่อชุมชน ขออย่าได้รังเกียจ ประชาชน ที่กลับไปรักษาต่อที่บ้าน หรือหายจากการติดเชื้อแล้วกลับไปอยู่บ้าน
ส่วนสถานการณ์การการฉีดวัคซีนโควิด-19ของประเทศไทย นายแพทย์เฉวตสรร ระบุว่า จากข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม โดยภาพรวมฉีดไปแล้วสะสมตั้งแต่28 กุมภาพันธุ์- ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 23 ล้าน โดส แบ่งเป็น เข็ม 1 จำนวน 17 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 24.18 จำนวนผู้ได้รับครบ 2 เข็ม อยู่ที่ 5 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 7 ทั้งนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีน อยู่ในอันดับที่ 4 ของอาเซียน
ส่วน กลุ่มประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ที่เข้าตามเกณฑ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ได้มีการเปิดให้จองในหลายจุด และได้ทยอยฉีดไปบ้างแล้ว
นพ.เฉวตสรร จะระบุอีกว่า ถึงแม้วัคซีนชนิด mRNA ที่มีข้อมูลถึงประสิทธิภาพสูง แต่ในเรื่องของการป้องกันการติดเชื้อก็ยังเกิดขึ้นได้อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ที่พบว่า ยังมีการติดเชื้อที่สูงอยู่ สิ่งสำคัญ คือขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขควบคู่ไปด้วยถึงแม้จะรับวัคซีนไปแล้ว.