TNN www.เราชนะ.com ขยายเวลาลงทะเบียนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เป็นครั้งที่ 3

TNN

เกาะติด COVID-19

www.เราชนะ.com ขยายเวลาลงทะเบียนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เป็นครั้งที่ 3

www.เราชนะ.com ขยายเวลาลงทะเบียนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เป็นครั้งที่ 3

www.เราชนะ.com ขยายเวลาเปิดลงทะเบียนกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้พิการ ต่ออีกเป็นครั้งที่ 3 สามารถขอสิทธิ์ร่วมโครงการจนถึงวันที่ 9 เม.ย.64

วันนี้ ( 3 เม.ย.64) ความคืบหน้าเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ครั้งที่ 3 ตามนโยบายของนายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 9 เมษายน 2564 ว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป 

นางสาวกุลยา  ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน  7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564  

สำหรับความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 2 เมษายน 2564 ดังนี้ 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,942 ล้านบาท 2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 104,900 ล้านบาท และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0  ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 11,206 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้น จำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 187,048 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ข่าวแนะนำ