TNN โควิดระบาด! หมอธีระ เตือนผลลบอย่าชะล่าใจ ล่าสุดพบปอดอักเสบพุ่งสูงสุดรอบ 5 เดือน

TNN

เกาะติด COVID-19

โควิดระบาด! หมอธีระ เตือนผลลบอย่าชะล่าใจ ล่าสุดพบปอดอักเสบพุ่งสูงสุดรอบ 5 เดือน

โควิดระบาด! หมอธีระ เตือนผลลบอย่าชะล่าใจ ล่าสุดพบปอดอักเสบพุ่งสูงสุดรอบ 5 เดือน

หมอธีระ อัปเดตสถานการณ์ "โควิด-19" 30 ธันวาคม 2023 - 6 มกราคม 2024 ป่วยนอนโรงพยาบาล 664 ราย ประเมินไทยมีโอกาสติดและป่วยกันได้มากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกของปีนี้

หมอธีระ อัปเดตสถานการณ์ "โควิด-19" 30 ธันวาคม 2023 - 6 มกราคม 2024 ป่วยนอนโรงพยาบาล 664 ราย ประเมินไทยมีโอกาสติดและป่วยกันได้มากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกของปีนี้


นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เกี่ยวกับโควิด-19 โดยระบุว่า วิเคราะห์การระบาดของไทย...สัปดาห์แรกหลังปีใหม่ 2024...


ตัวเลขรายงานรายสัปดาห์ 30 ธันวาคม 2023 - 6 มกราคม 2024 จำนวนป่วยนอนโรงพยาบาล 664 ราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อน 11.8% เสียชีวิต 4 ราย มีอาการปอดอักเสบ 144 ราย มากกว่าสัปดาห์ก่อนถึง 20% นับว่าสูงสุดในรอบ 5 เดือน และเกินร้อยติดต่อกันมา 4 สัปดาห์แล้ว ใส่ท่อช่วยหายใจ 89 ราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อน 20.3% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเช่นกัน และมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน คาดประมาณการติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันอย่างน้อย 4,743 - 6,588 ราย


ปัจจุบันการระบาดทั่วโลกนั้นเกิดจากสายพันธุ์ JN.1 (คือสายพันธุ์ BA.2.86.1.1) เป็นหลัก สถานการณ์ปัจจุบันไม่ดีนัก เพราะเราเห็นได้ชัดเจนว่ารอบตัวมีคนที่ติดเชื้อและป่วยจำนวนมาก ทั้งที่ทำงาน ที่เรียน ที่ประชุม และอื่นๆ


หากมีอาการไม่สบาย ควรตรวจโควิด-19 แม้วันแรกๆ ได้ผลลบอย่าชะล่าใจ ให้ตรวจถึงวันที่ 4-5 หลังจากเริ่มมีอาการ เพราะไวรัสจะพีคช่วงนั้น ที่สำคัญคือ การตรวจ ATK ควรทำการป้ายทั้งในโพรงจมูกและบริเวณผนังคอด้านหลัง จะช่วยเพิ่มโอกาสตรวจพบมากขึ้น 


ประเมินว่าไทยเรามีโอกาสติดและป่วยกันได้มากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกของปีนี้ ด้วยลักษณะพฤติกรรมที่มีคนป่วยแต่ไม่ไปตรวจ และเรื่องความไวของการตรวจที่ผันแปรกับระยะเวลาที่ไวรัสจะขึ้นสูงจนถึงพีค คาดการณ์ว่าจำนวนติดเชื้อจริงต่อวันอาจมากกว่าที่ประเมินไว้ข้างต้นอีกเท่าตัว


ความใส่ใจสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญควรป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ การใส่หน้ากาก และเลี่ยงคลุกคลีใกล้ชิดคนที่มีอาการป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไอหรือจาม จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก





ภาพจาก AFP / รอยเตอร์

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง