โควิด BQ.1.1-XBB ดื้อต่อภูมิคุ้มกันที่สุด! ฉีดวัคซีนไม่พอรับมือ
"หมอธีระ" ยกผลวิจัยจากจีน พบว่าโควิดสายพันธุ์ย่อย “BQ.1.1 และ XBB” ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุด แม้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม และเคยติดโควิดมาก่อน ก็ไม่เพียงพอรับมือ
วันนี้ ( 24 ต.ค. 65 )รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ไวรัส BQ.1.1 และ XBB ถือเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่ได้รับการประเมินจากทั่วโลกว่าจะนำไปสู่การระบาดระลอกใหม่ในปลายปีนี้ เหตุผลหลักที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วคือการดื้อต่อภูมิคุ้มกัน และความสามารถในการขยายการระบาดสูงกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดมาก่อน ทั้ง BA.2 และ BA.5 โดย XBB ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุด ในขณะที่ BQ.1.1 ก็ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากเช่นกัน
ล่าสุดคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยแพร่ผลการศึกษาเมื่อคืนนี้ ตอกย้ำให้เห็นว่า ทั้ง BQ.1.1 และ XBB นั้นดื้อต่อภูมิคุ้มกันอย่างมาก
ทั้งนี้ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นว่า ระดับภูมิคุ้มกันจากคนที่เคยฉีดวัคซีน CoronaVac 3 เข็ม และเคยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน BA.1 มาก่อนนั้น ไม่เพียงพอที่จะจัดการกับ BQ.1.1 และ XBB ได้ นอกจากนี้แม้คนที่ฉีดวัคซีนและติดเชื้อมาก่อน เมื่อเวลาผ่านไปเกิน 6 เดือน ระดับภูมิคุ้มกันก็จะลดลงมากอย่างชัดเจน
ผลการศึกษาของทีมมหาวิทยาลัยปักกิ่งนี้ ตอกย้ำให้เราตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ คือการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องจำเป็น จะลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อติดเชื้อลงไปได้มาก
นอกจากนี้ประเทศต่างๆ ควรจัดหาวัคซีนรุ่นใหม่ชนิด ไบวาเลนท์ วัคซีน (bivalent vaccines) ที่กระตุ้นภูมิคุัมกันได้ดีขึ้น เพื่อฉีดให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที
ข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat