ยกเลิกแจกชุดตรวจโควิด-19 ATK ฟรี ผ่านแอปฯเป๋าตังที่ร้านขายยา ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้!

สปสช.ยกเลิกแจก "ชุดตรวจโควิด-19 ATK" ฟรี ให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ หลังปรับโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ชี้ยังรักษาโควิดฟรีตามสิทธิ 

วันนี้ (27 ก.ย.65) ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.  ระบุถึง สิทธิการรักษาโควิด-19 หลังเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป โดยระบุว่า ในเรื่องของสิทธิการรักษาโควิดหลังวันที่ 1 ต.ค.นั้น ยังสามารถรับบริการรักษาพยาบาลได้ตามสิทธิ ทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ข้าราชการ และประกันสังคม ดูแลรักษาตามอาการและตามดุลยพินิจแพทย์ 

หากอาการไม่รุนแรงผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการการรักษาได้ในรูปแบบผู้ป่วยนอกและยังรักษาฟรีตามสิทธิ ส่วนกรณีอาการรุนแรงแพทย์ก็จะพิจารณาให้นอนในโรงพยาบาล  ยังคงใช้สิทธิ์ยูเซป (UCEP) รักษาทุกที่ ได้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ ยังคงให้บริการรักษาโควิด-19 ทางระบบออนไลน์หรือ Telematicine ผ่าน 4 แอปพลิเคชั่น โดยพบแพทย์ทางไกล วินิจฉัยอาการ และหากต้องจ่ายยาก็จะส่งยาผ่านไปรษณีย์ถึงบ้าน ส่วนการแจกชุดตรวจโควิด-19 หรือ ATK ฟรี ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง จะยุติการแจก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ล่าสุด มีมติ เรื่องค่ารักษาพยาบาลที่รัฐบาลสนับสนุน ซึ่งเดิมเป็นการใช้เงินงบประมาณเงินกู้  รัฐบาลสนับสนุนทั้งหมด ตั้งแต่ค่าอุปกรณ์ ค่าตรวจค่ารักษาต่างๆ แต่เงินในส่วนนี้หมดแล้ว 

ต่อจากนี้ปรับมาใช้ งบประมาณในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแทน ซึ่งได้มีการปรับกติกาบางส่วน หลังจากมีการพิจารณา ลดระดับโควิด -19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง 

ในส่วนการจ่ายค่าชดเชยค่าบริการสำหรับคนไทยทุกสิทธิ ได้แก่ ค่าบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ค่าบริการจัดการศพ ค่าความเสียหายจากการฉีดวัคซีนจะถูกยกเลิก แล้วปรับใช้สิทธิจากกองทุนสุขภาพของแต่ละกองทุนตามระบบปกติซึ่งในส่วนของ สปสช. 

หากเกิดกรณีความเสียหายหลังฉีดวัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน จะใช้มาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ในการจ่ายชดเชยเบื้องต้นแทนโดยอัตราการจ่ายยังคงเหมือนเดิม

สำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ใน 9 โรงพยาบาล ยกเลิกสิทธิบัตรทอง ทันตแพทย์อรรถพร ระบุว่า หากมีอาการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มคนที่ถูกยกเลิกสิทธิในโรงพยาบาลเหล่านี้ ก็สามารถที่จะรับบริการได้ในโรงพยาบาลที่มีหลักประกันสุขภาพทุกแห่ง.

ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN Online