หมอมนูญแนะใช้ยาโมนูลฯไม่ควรเกิน 5 วัน-เลี่ยงใช้ในคนท้องและเด็ก
หมอมนูญเผยอนามัยโลกแนะใช้ “ยาโมลนูพิราเวียร์”ไม่ควรเกิน 5 วัน เลี่ยงใช้ในสตรีมีครรภ์และเด็ก จับตาผลข้างเคียงก่อให้เกิดมะเร็ง-กระตุ้นโควิดดื้อยาหรือไม่
วันนี้( 15 มี.ค.65) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โดยระบุว่าองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์คในคนไข้ที่เพิ่งจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่เกิน 5 วัน ยังมีอาการน้อย แต่มีความเสี่ยงสูงที่โรคจะดำเนินต่อไปเข้าขั้นรุนแรง ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตได้
ยานี้เป็นยาต้านไวรัสตัวใหม่ชนิดกิน ขนาด 200 มิลลิกรัม กิน 4 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงนาน 5 วัน สามารถให้กินเป็นคนไข้นอก ช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 30
ยาโมลนูพิราเวียร์เข้าประเทศไทยแล้ว กำลังกระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆสัปดาห์หน้า ยานี้มีจำนวนจำกัด ต้องใช้ตามข้อบ่งชี้เท่านั้น ให้กับคนที่มีความเสี่ยงสูง คือคนที่ไม่เคยได้รับวัคซีน คนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่นเบาหวาน และคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่ใช่ให้กับคนทั่วไป
ห้ามให้ยาโมลนูพิราเวียร์กับหญิงตั้งครรภ์/อาจจะตั้งครรภ์ และหญิงที่กำลังให้นมบุตร เพราะอาจทำให้ทารกผิดปกติ และไม่ควรใช้กับเด็ก
ยานี้อาจมีผลข้างเคียง เช่นตามทฤษฎีเป็นไปได้อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ซึ่งยังไม่มีใครทราบ อาจก่อให้เกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดื้อยา อาจกระตุ้นให้เกิดเชื้อกลายพันธุ์ ต้องติดตามระยะยาวต่อไป
อย่าแปลกใจทำไมองค์การอนามัยโลกไม่เคยแนะนำให้ประเทศต่างๆใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพราะไม่มีข้อมูลจากการศึกษายืนยันว่ายาฟาวิพิราเวียร์สามารถลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้ เมื่อไรที่เรามียาโมลนูพิราเวียร์ และยาต้านไวรัสตัวใหม่แพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ที่กำลังจะเข้าประเทศไทยเดือนหน้าจำนวนมากเพียงพอ ถึงเวลาแล้วที่องค์การเภสัชกรรมควรจะหยุดผลิตและนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์อีกต่อไป
ข้อมูลจาก : เพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
ภาพจาก : AFP