ตลาดหุ้นจีน - เยนญี่ปุ่นแย่งซีนทองโลก แนะขายทำกำไรถ้าทะลุ 2,700 ดอลลาร์
บล.ฟินันเซีย ไซรัสประเมินทองคำยังขายปัจจัยหนุนให้ปรับขึ้นทำนิวไฮรอบใหม่ บวกกับตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่นมีปัจจัยหนุนที่โดดเด่นดึงดูดความน่าสนใจเงินลงทุนได้มากกกว่าทองคำ
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าส่วนงานกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้ายังอยูในทิศทางไซด์เวย์ และมีโอกาสปรับยอลง เนื่องจากปัจจัยหนุนจากความขัดแย้งสถานการณ์ในตะวันออกกลางแม้จะน่ากังวล แต่ประเด็นความขัดแย้งก็ไมได้สะท้อนไปที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกให้เร่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาทองคำที่ไมได้อานิสงส์กับประเด็นนี้มากนัก บวกกับตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นญี่ปุ่น ก็กลายมาเป็นทางเลือกการลงทุนที่โดดเด่นและน่าสนใจมากกว่าการลงทุนทองคำในจังหวะนี้ด้วย
โดยต้องติดตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนที่เซนติเมนต์นักลงทุนดีขึ้น มีเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกันมูลค่าหุ้น (Value) ก็ไม่แพงหลังกอนหน้านี้ตลาดปรับลดลงไปมาก และเม็ดเงินลงทุนตางชาติทีไหลเข้ายังหนุนให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีกด้วย ดึงดูดฟันด์โฟลว์ได้มากขึ้นอีก หลังรัฐบาลจีนออกมาตรการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพชุดใหญ่ทั้งนโยบายการเงินและการคลัง ซึ่งเป็นโอกาสลงทุนในจีนในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า แม้ยังไม่มีภาพที่ชัดเจนต่อผลของมาตรการว่าจะหนุนเศรษฐกิจจีนฟื้นได้จริงหรือไม่ก็ตาม
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียและญี่ปุ่น ซึ่งเงินเยนก็แข็งค่าขึ้นเชนกัน จากการเลือกตั้งญี่ปุ่นได้นายกคนใหม่ "ชิเงรุ อิชิบะ" ทั้งนี้ อิชิบะ เพิ่งชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา และเตรียมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในการประชุมสภานิติบัญญัติสมัยพิเศษวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค. 2567)
จากภาพที่กล่าวมาส่งผลให้ราคาทองคำขาดอัพไซด์และไมสามารถทำนิวไฮใหม่ได้ เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจนเพิ่มเติมจากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยต้องติดตามตัวเลขตลาดจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ทั้งการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค. ,ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP ,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ปีนี้ ซึ่งหากตัวเลขเหล่านี้ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดจะหนุนให้ดอกเบี้ยเฟดปรับลดลงต่อที่ระดับร้อยละ 0.5
สำหรับคาดการณ์กรอบราคาทองคำในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์นี้ คากราคาทองโลกมีแนวรับระดับ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนแนวต้านมองที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยหากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ได้แนะนำให้ขายทำกำไรออกมากอน ขณะที่ทิศทางราคาทองคำในประเทศมองว่ายังถูกกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าตามสกุลเงินหยวนและสกุลเงินในภูมิภาค คาดแนวรับระดับ 40,800 บาท/บาททองคำ และมองแนวต้านที่ 40,100 บาท/บาททองคำ ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนสามารถเข้าสะสมและทำกำไรได้ตามกรอบแนวรับและแนวต้าน
ข่าวแนะนำ