บรรยากาศตามร้านทองในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา คึกคักไปด้วยประชาชนที่นำทองคำ ทั้งทองรูปพรรณ และทองคำแท่งมาขาย เนื่องจากช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง เช้าวันนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึงบาทละ 47,350 บาท ก่อนจะมีการปรับตัวขึ้น-ลงอีกหลายครั้งตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ประชาชนที่มีทองคำอยู่ในมือพากันนำออกมาขาย ทำให้ร้านทองต่างๆที่ตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา กว่า 20 ร้าน มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแน่นขนัด ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่สายตรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา มาคอยดูแลความปลอดภัยร้านทองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุในช่วงทองขึ้นราคา
นางบุญเกิด วัฒนกุล ชาวนครราชสีมา บอกว่า วันนี้นำสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ มาเปลี่ยน และนำแหวนทองคำหนัก 25 สตางค์ 2 วงมาขายด้วย ซึ่งเธอเองติดตามราคาทองคำมาอย่างต่อเนื่อง รู้สึกตกใจที่ราคาทองช่วงนี้พุ่งสูงมาก ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่ขายสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ราคาทองยังอยู่ที่บาทละ 18,000 เท่านั้น เสียดายมาก หากเก็บไว้ขายช่วงนี้คงได้เงินเกือบ 1 แสนบาท
สรุปข่าว
ด้าน นายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าทองคำจังหวัดนครราชสีมา และผู้บริหารร้านทองกรุงเทพ ตราหัวใจคู่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นบาทละกว่า 4 หมื่นบาทเป็นต้นมา ทำให้แรงซื้อทองคำตามห้างทองต่างๆในพื้นที่ลดลงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่นำทองมาขาย เฉลี่ยแต่ละวันจะมีคนมาซื้อทองเพียงร้อยละ 30 ส่วนอีกร้อยละ 70 เป็นคนนำทองมาขาย
สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ห้างทองขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินทุนสำรองสำหรับซื้อทองคำ ประกอบกับทองที่อยู่ในร้านก็ขายไม่ค่อยออก ขนาดกรอบพระก็แทบจะไม่มีลูกค้ามาเลี่ยมกัน ทำให้ห้างทองขนาดเล็กต้องปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงปี 67 ที่ผ่านมา ห้างทองขนาดเล็กในพื้นที่ปิดไปแล้ว 6-7 ร้าน และหากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องแบบนี้ คาดว่าปี 68 นี้ ห้างทองขนาดเล็กในพื้นที่จะปิดตัวเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 ร้านแน่นอน
ที่มาข้อมูล : ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา
ที่มารูปภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา