
เพจเฟซบุ๊ก ทัพเรือภาคที่ ๓ รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 เรือ ต.271 เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าแบบที่ 1 (T-337) บูรณาการร่วมกับ เรือ ศรชล.4015 และเรือตรวจประมง 206 จาก ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดพังงา ในการลาดตระเวนค้นหาและพิสูจน์ทราบเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำประมงในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทย ซึ่งเป็นการขยายผลจากการที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากเรือประมงไทย
จนเมื่อเวลา 15.50 น. ตรวจพบเรือประมง สัญชาติเมียนมาจำนวน 2 ลำ ห่างจากเกาะค้างคาว จังหวัดระนอง ระยะทาง 8.7 ไมล์ทะเล ซึ่งอยู่ภายในทะเลอาณาเขตของประเทศไทย จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือ รวม 13 คน มายังท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ จังหวัดระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สรุปข่าว
การจับกุมเรือประมงต่างชาติที่รุกล้ำน่านน้ำทางทะเลของประเทศไทย เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการ “Seal Stop Safe”ชายแดนทางทะเล และ เป็นไปตามนโยบายของพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่มุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามทางทะเล การปฏิบัติการป้องกันการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ (Irregular Migrant)และ การปราบปรามการลักลอบนำพาแรงงานเถื่อน(Migration Smuggling)
ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 จะทำหน้าที่รักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน อย่างสุดกำลังความสามารถ และจะไม่ยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำน่านน้ำเข้ามาในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทยเป็นอันขาด หากตรวจพบจะจับกุมและส่งดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี
ที่มาข้อมูล : ทัพเรือภาคที่ ๓
ที่มารูปภาพ : ทัพเรือภาคที่ ๓

Tanvarut Naumpakdee
(Tanvarut Naumpakdee)