ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เผยว่า จากข้อมูลจุดความร้อนสะสมที่พบมากที่สุดใน 5 จังหวัด คือ ตาก กาญจนบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ พบว่า พื้นที่ที่พบจุดความร้อนส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่า พื้นที่เกษตร และเขต สปก. โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตาก และกาญจนบุรี ที่เป็นป่าเต็ง - รัง จึงได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงฯ เข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าใน 2 พื้นที่เป็นการด่วน ตั้งแต่เมื่อวาน (27 มกราคม 2568)
โดยจากการบินสำรวจสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี พบไฟตามจุดความร้อนกระจายในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีเชื้อเพลิงประเภทไผ่ตายขุยจำนวนมาก เช่นในพื้นที่ ขสป.สลักพระ และบางจุดอยู่ในพื้นที่ป่าลึกยากต่อการเข้าถึงและไม่มีจุดที่สามารถส่งกำลังทางอากาศได้ บางจุดอยู่ใกล้แหล่งน้ำที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นสามารถเข้าสนับสนุนได้ ซึ่งในวันนี้ (28 มกราคม 2568) จะได้ส่ง ฮ. 1110 เข้าร่วมบินทิ้งน้ำเพื่อดับไฟป่า บริเวณป่าแม่ปลาสร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สนับสนุนภาคพื้น 20 นาย ต่อไป
สรุปข่าว
ในส่วนของ จ.ตาก ซึ่งพบจุดความร้อนสูงที่สุด ได้สนับสนุน ฮ. ทส. จำนวน 2 ลำ เข้าบินสำรวจพื้นที่การเกิดไฟป่า เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สลิดและป่าโป่งแดง และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท้อและป่าห้วยตากฝั่งขวา ร่วมกับนายอำเภอท้องที่ อ.เมืองตาก และ อ.บ้านตาก จ.ตาก พร้อมทั้งได้ปฏิบัติการบินตักน้ำดับไฟในจุดที่มีการลุกลามของไฟเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ อช.ดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน และป่าสงวนฯ ป่าแม่สลิดและป่าโป่งแดง ท้องที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก รวมจำนวน 63 เที่ยวบิน คิดเป็นปริมาณน้ำ 31,500 ลิตร
รวมถึงได้ปฏิบัติการบินตักน้ำดับไฟในจุดที่มีการลุกลามของไฟบนพื้นที่สูงชันยากต่อการเดินทางเข้าควบคุมไฟ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ ป่าแม่ท้อและป่าห้วยตากฝั่งขวา ท้องที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก จำนวน 20 เที่ยวบิน คิดเป็นปริมาณน้ำ 10,000 ลิตร ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของไฟและควบคุมไฟไว้ได้เพียงบางส่วน เพื่อชะลอการลุกลามให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการต่อทางภาคพื้นดินต่อไป โดยในวันนี้ ฮ. ทส. ยังคงอยู่ในทั้ง 2 พื้นที่ เพื่อร่วมประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังไฟป่าร่วมกับ ทสจ. และหน่วยงานในพื้นที่ต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่หากพบเจอการเผา ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยทันที ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของพื้นที่เกษตร ที่พบจุดความร้อนสะสมสูงสุดในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ได้สั่งการให้ ทสจ.ปราจีนบุรี ประสานกับผู้ว่าราขการจังหวัด ออกปฏิบัติการอย่างเข้มข้น หากพบเจอการเผาให้แจ้งความดำเนินคดีทันที
ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 30 มกราคม ที่จะถึงนี้ จะลงพื้นที่ จ.ลำพูน และเชียงใหม่ เพื่อสำรวจสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในการเร่งดำเนินงานตามงบกลางในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่น PM2.5 ที่จะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะการลงพื้นที่ทำความเข้าใจและสร้างความร่วมมือกับชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ในท้องที่ที่อยู่ในเขตป่าให้ช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟป่า เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควันในช่วงที่มีสภาพอากาศปิดเช่นนี้ เพื่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน และเพื่อรักษาบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้อีกด้วย