สถานการณ์ฝุ่นขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤต พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์อันตรายหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจัดว่าอยู่ในขั้นรุ่นแรง ล่าสุด รศ. นพ.มงคล สมพรรัตนพันธ์ สาขาวิชาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาให้ความรู้ เกี่ยวกับความเสี่ยง ผลที่ตามมาจากการดมฝุ่น พร้อมการป้องกันฝุ่นในชีวิตประจำวัน
โดยระบุว่า ฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.รถยนต์ 2.การเผา และ 3.สภาพอากาศปิด (ลมอ่อนและอากาศไม่ถ่ายเท) ทำให้ฝุ่นสะสมหนักขึ้น
ตั้งแต่เช้ามืด จนกระทั่งถึงตอนเช้า ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสูง การออกไปนอกอาคารทำให้รับฝุ่นพิษในปริมาณมากในเวลาอันสั้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการของโรคเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามแม้เราจะอยู่ในอาคารอย่างเดียว อาจจะช่วยลดการสัมผัสฝุ่นได้มากกว่านอกบ้านก็จริง แต่ฝุ่นสามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในอาคารได้ แม้จะปิดประตู-หน้าต่างหรือเปิดเครื่องปรับอากาศ
ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อสุขภาพ
1. ผลระยะสั้น เช่น อาการภูมิแพ้กำเริบ หลอดลมตีบ โรคหัวใจกำเริบ และโรคหลอดเลือดสมองชนิดเฉียบพลัน
2. ผลระยะยาว ฝุ่นมลพิษ PM2.5 ไม่เพียงทำให้เกิดภูมิแพ้ แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดของ หัวใจ หลอดเลือดสมอง และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดที่ปัจจุบันพบในคนอายุน้อยลงมากขึ้น
ไม่เพียงแค่ฝุ่น PM2.5 เท่านั้น มลพิษจากการเผาไหม้ยังปล่อย ก๊าซพิษ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โอโซน และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ซึ่งเครื่องฟอกอากาศหรือหน้ากากทั่วไปอาจไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด
สรุปข่าว
คำแนะนำเพื่อลดพิษฝุ่นในชีวิตประจำวัน
1. อยู่ภายในบ้าน ออกนอกบ้านให้น้อยสุด
- ปิดหน้าต่าง ลดการเผาไหม้ในบ้าน/จุดธูป
- เปิดเครื่องฟอกอากาศชนิด HEPA filter ทุกคืน
- งดออกกำลังหรืออยู่นอกอาคารเป็นเวลานาน
- การมีระบบติดตั้งเครื่องความดันบวก มีประโยชน์
2. ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้าน
- สวมหน้ากากที่แนบสนิทกับใบหน้า รุ่นกันฝุ่น เช่น N95 หรือรุ่นที่เทียบเท่า- รองลงมา (แต่ดีกว่าไม่ใส่เลย) คือ สวมหน้ากากอนามัยที่แนบสนิท หรืออาจใช้ 2 ชั้นที่ปิดรอยรั่วของกันและกัน เช่น หน้ากากผ้า + หน้ากากอนามัย แต่ควรกลับเข้าอาคารเป็นระยะ
3. อาการผิดปกติที่ท่านอาจจะเจอได้
มลพิษทางอากาศสามารถผ่านทะลุเยื่อบุผิวตามส่วนอวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น ตา ทางเดินหายใจ ผิวหนัง ดังนั้นอวัยวะที่สัมผัสกับฝุ่นก่อนมักจะแสดงอาการให้เห็นความผิดปกติก่อน ส่วนอวัยวะภายในก็เป็นสิ่งที่ตามมาและบ่งถึงการ รับเอาฝุ่นมลพิษเข้าสู่ร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
4. อาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
- อาการเร่งด่วน: แน่นอก หอบ หายใจเสียงวี๊ด ไอปนเลือด ซึม หมดสติ
- อาการที่ไม่ด่วนแต่ควรนัดหมายพบแพทย์: น้ำมูก คัดจมูกมาก จาม คันตา ผื่น คัน ฯลฯ
- ท่านที่มีโรคประจำตัวช่วงนี้ควรกินยาและใช้ยาโรคประจำตัวอย่างต่อเนื่อง บางรายหากแพทย์มีคำแนะนำให้ปรับยาเพิ่มก็ควรกินตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด