ไข้อีดำอีแดง โรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ

ไข้อีดำอีแดง โรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ

สรุปข่าว

สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ แนะ โรคไข้อีดำอีแดง ( Streptococcal scarlet fever) เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส ทางเดินหายใจ ทำให้แพร่กระจายได้ง่ายประชาชนควรดูแลสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ เนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถหายได้เองทั้งยังมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเมื่อมีอาการแสดงที่ผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง


นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิชรองอธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่าไข้อีดำอีแดงเป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก ไม่สามารถหายได้เอง และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้อาการแย่ลงจนส่งผลร้ายต่อร่างกาย โรคนี้เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ ซึ่งการแพร่กระจายของโรคจากคนสู่คน ผ่านทางละอองฝอยจากสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยได้แก่ เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ทางการหายใจและการสัมผัสทางเยื่อบุต่างๆได้แก่ ตา จมูก ปาก รวมทั้งการสัมผัสใกล้ชิดผ่านทางสิ่งของเครื่องใช้ร่วมกันเช่น แก้วน้ำ ช้อน การดูแลสุขอนามัยในทุกๆคนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโดยเฉพาะในการอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนจำนวนมาก เช่นสถานศึกษาต่างๆ


แพทย์หญิงศิรินดาแจ่มจรรยานายแพทย์เชี่ยวชาญสถาบันโรคผิวหนังกล่าวเพิ่มเติมว่าอาการเริ่มจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน  หลังจากได้รับเชื้อ 12 ชั่วโมงถึง 5 วัน ต่อมา 1-2 วัน จะเริ่มมีผื่นที่บริเวณคอ และกระจายไปตามตัว แขนขาภายในระยะเวลาไม่กี่วันลักษณะผื่นจะเป็นผื่นนูนละเอียดคล้ายกระดาษทรายมีอาการคันเล็กน้อย มักพบผื่นจำนวนมากที่บริเวณข้อพับและพบจุดเลือดออกขนาดเล็กในบริเวณนั้นได้3-4 วันต่อมาผื่นจะเริ่มจางและเริ่มลอก ซึ่งมักเริ่มที่หน้า ส่วนฝ่ามือ ฝ่าเท้าอาจเกิดการลอกหลังจากนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้ ในช่องปากจะพบการบวมแดงของต่อมทอนซิล อาจพบเยื่อสีขาว เทา หรือเหลืองปกคลุมในช่วง 2 วันแรกลิ้นจะมีเยื่อขาวปกคลุมหลังจากนั้นเยื่อขาวจะลอกออกกลายเป็นลิ้นสีแดงและเห็นตุ่มลิ้นชัดเจนนอกจากนี้ยังพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโต หน้าแดง และรอบปากซีดได้บ่อย


ไข้อีดำอีแดง โรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ

การรักษาที่สำคัญคือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ penicillin หรือ erythromycin เป็นระยะเวลา 10 วัน ร่วมกับการรักษาตามอาการเช่น ยาลดไข้ อาการไข้มักจะลดลงภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังได้รับยาฆ่าเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้แก่ ฝีที่บริเวณรอบต่อมทอนซิลไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้รูมาติก และไตอักเสบการวินิจฉัยโรคอาศัยอาการแสดงที่กล่าวมา และอาจร่วมกับการตรวจยืนยันเชื้อโดยการเพาะเชื้อจากลำคอหรือการตรวจเลือดการพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มแรกเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยควบคุมความรุนแรงของโรค
ที่มา : กรมการแพทย์ สถาบันโรคผิวหนัง

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

โรคไข้อีดำอีแดง
กรมการแพทย์โรคติดต่อโรคระบาด
ไข้อีดำอีแดง