!["กลิ่นปาก" เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง? แนะวิธีป้องกัน](/static/images/cb4bf81a-4783-4b7a-99d3-5d06ae56750e.jpg)
!["กลิ่นปาก" เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง? แนะวิธีป้องกัน](/static/images/cb4bf81a-4783-4b7a-99d3-5d06ae56750e.jpg)
สรุปข่าว
"กลิ่นปาก" ปัญหากวนใจทำให้ขาดความมั่นใจ มีสาเหตุมาจากอะไร แนะวิธีป้องกัน
ปัญหากลิ่นปาก สาเหตุที่สำคัญและพบได้บ่อยที่สุด คือปัญหาสุขภาพภายในช่องปาก จากการที่มีเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน ลิ้น ร่องเหงือก และบริเวณฟันผุเป็นรูลึก อีกทั้งการเป็นโรคปริทันต์อักเสบ มักมีคราบฟันและหินปูนสะสม ที่เกิดจากการทำความสะอาดช่องปากที่ไม่ทั่วถึง ทำให้กลิ่นปากรุนแรงยิ่งขึ้น และในภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อย ก็ทำให้การชะล้างจุลินทรีย์และเศษอาหารได้น้อยลง เกิดการหมักหมมได้มากขึ้น ซึ่งการที่มีน้ำลายน้อยอาจมีสาเหตุมาจากสภาวะของร่างกายเอง ผลจากยาที่ทานประจำ หรือการดื่มน้ำไม่เพียงพอ
กลิ่นปากอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
-ฟันผุที่เป็นรูลึก ทำให้เป็นที่สะสมของเศษอาหารหรือแบคทีเรีย
-ฟันผุถึงโพรงประสาทฟันทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อบริเวณปลายรากฟัน เกิดหนองซึ่งมีกลิ่น
-โรคเหงือกอักเสบ อันเกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์และก่อตัวเป็นหินปูน
-ภาวะน้ำลายน้อย
-โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ โรคภูมิแพ้จมูก
-โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน
-โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน
สาเหตุที่สำคัญและพบได้บ่อยที่สุดคือ
การมีฝ้าขาวบนลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โคนลิ้นด้านใน สำหรับสาเหตุอื่นๆในช่องปากยังมีอีกมากมาย เช่น ฟันผุ ยิ่งฟันผุเป็นรูลึก ยิ่งมีกลิ่นเหม็นมาก หรือมีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกฟัน โรคเหงือกอักเสบซึ่งเกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีแผ่นคราบฟันและหินปูนสะสม หากไม่ได้รับการรักษาโรคเหงือกอักเสบก็จะลุกลามมากขึ้นกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงยิ่งขึ้น
สรุปว่ากลิ่นปาก เกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ การรักษาคือ
การแก้ไขสาเหตุเหล่านั้น ประกอบกับการปรับพฤติกรรมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในช่องปาก ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าปล่อยให้ปากแห้ง และการดื่มน้ำจะช่วยขจัดแบคทีเรียและช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในช่องปาก ช่วยขจัดคราบบนลิ้นและเสมหะในลำคอ ตลอดจนเศษอาหารที่ติดอยู่ตามร่องของทอนซิล และทำให้มีน้ำลายเพิ่มขึ้น ฉะนั้นควรแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในช่องปากให้เหมาะสมที่ไม่ทำให้ปากแห้ง
แต่ถ้าหากยังมีกลิ่นปากอย่างเรื้อรัง ขอแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์ เพื่อทำการซักประวัติ ทั้งในเรื่องของโรคประจำตัวและการดูแลอนามัยภายในช่องปากและตรวจเพื่อหาสาเหตุของโรคต่อไป
การป้องกันและแก้ไขปัญหากลิ่นปาก
ควรหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และทำการแก้ไข การใช้เพียงน้ำยาบ้วนปากหรือลูกอมเพื่อระงับกลิ่นปากนั้นทำได้เพียงชั่วคราว ควรดูแลทำความสะอาดช่องปากให้ทั่วถึง รวมทั้งร่องลึกบนลิ้นและโคนลิ้น หากมีฟันปลอมก็ควรถอดล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอไม่ปล่อยให้ปากแห้ง และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก ทำการรักษาฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ ขูดหินปูน รวมทั้งรับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลช่องปากอย่างถูกวิธี
ที่มา กรมการแพทย์ / RAMA CHANNEL / โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ภาพจาก AFP
ที่มาข้อมูล : -