
เกมพรีเมียร์ลีก 2024/25 สัปดาห์ที่ 29 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี
เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอลส่ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กลับมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริงประสานงานแนวรุกกับ เลอันโดร ทรอสซาร์, มาร์ติน โอเดอการ์ด และ มิเกล เมริโน่ ที่ต้องรับบทเป็นหัวหอกตัวเป้าอีกครั้ง
ส่วนทางด้าน เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือของเชลซี จับ รีซ เจมส์ กัปตันทีมคัมแบ็กตัวจริงลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ สวนทางกับ โคล พาลเมอร์ ที่เกมนี้ไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและสำรอง โดยแนวรุกใช้บริการ เจดอน ซานโช่, เปโดร เนโต้ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู

สรุปข่าว
เปิดฉากครึ่งแรกมาเป็น อาร์เซนอล ที่เดินหน้าบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว ก่อนที่ นาทีที่ 20 จะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุม มาร์ติน โอเดอการ์ด เปิดบอลมาเข้าหัว มิเกล เมริโน่ ที่สอดมาโหม่งเสาแรกเข้าประตูไป
ต่อมานาทีที่ 37 เชลซี ทำเกมรุกขึ้นมา เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ยิงไปติดบล็อกแผงหลัง อาร์เซนอล บอลเด้งไปเข้ามา คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยิงไปติดบล็อกเช่นกัน แล้วบอลกระเด้งไปที่ มาร์ค คูคูเรญ่า ได้กดเต็มข้อ บอลทะลุซองของ ดาบิด ราย่า ไหลออกหลังไป ทำให้เชลซี ได้เพียงลูกเตะมุมเท่านั้น
ต่อมาทั้งสองทีมทำะไรกันเพิ่มเติมไม่ได้ จบครึ่งแรก อาร์เซนอล ขึ้นนำไปก่อนด้วยสกอร์ 1-0
ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง นาที 60 อาร์เซนอล น่าได้ประตูเพิ่มอีก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เปิดบอลจากด้านขวาลอยไปเสาสอง มิเคล เมริโน ที่รออยู่โล่งๆ จึงตั้งเท้าแปวอลเลย์ทันที โรเบิร์ต ซานเชซ ซูเปอร์เซฟทุบออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ช่วงเวลาที่เหลืออาร์เซนอลไปเน้นเกมรับมากขึ้น ขณะที่เกมรุกของเชลซีก็ไม่ได้แสดงความน่ากลัวให้เห็น จบเกม “ปืนใหญ่” ชนะไป 1-0
ทำให้ทั้งคู่ลงสนามไป 29 นัดเท่ากัน อาร์เซนอลเก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนน ยึดรองจ่าฝูงเช่นเดิม ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล 12 แต้ม ส่วนเชลซีมี 49 คะแนน ครองอันดับ 4
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า, ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลีบา, กาเบรียล มากัลเญส, ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่, มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์, มิเกล เมริโน่, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลีย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ค คูคูเรญ่า, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เปโดร เนโต้, รีซ เจมส์, เจดอน ซานโช่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
ที่มาข้อมูล : Premier League
ที่มารูปภาพ : AFP