
เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เข้ามาถือหุ้นส่วนน้อยของสโมสรและบริหารทีมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเขาก็ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาการเงินสโมสร รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเกือบ 450 คน และปรับค่าตั๋วเข้าชมกลางซีซั่น
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้ยืนยันราคาของตั๋วเข้าชมในฤดูกาลหน้า แต่การตัดสินใจยกเลิกราคาพิเศษสำหรับแฟนบอลอายุน้อยกว่า 18 ปีและอายุมากกว่า 65 ปีรวมถึงปรับปรับค่าตั๋วเป็น 66 ปอนด์นั้นทำให้แฟนบอลเป็นกังวลกับการขึ้นราคาในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผลงานปัจจุบันของทีมในสนามก็ไม่สู้ดีนัก บรรดาแฟนบอลก็เพิ่งจะเดินขบวนประท้วงเพื่อขับไล่ตระกลูเกลเซอร์ โดยมีการโชว์แบนเนอร์ที่เขียนว่า "เราอยากได้สโมสรคืนมา" และ "โจรปล้นพันล้านปอนด์" ซึ่งสื่อถึงหนี้ที่เกิดขึ้นกับสโมสรหลังการเทคโอเวอร์ในปี 2005

สรุปข่าว
ทางด้าน เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง The Times โดยระบุว่า หากเขาพบกับเสียงก่นด่าขนาดนั้นก็เป็นสัญญาณบอกว่าต้องอำลาจากสโมสร
"คือผมก็ทนได้ในระดับนึงล่ะนะ ผมไม่ใส่ใจหากไม่ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบ เพราะผมเข้าใจดีว่าไม่มีใครชอบใจที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงไปอยู่ต่ำขนาดนั้นและไม่มีใครชอบใจกับการตัดสินใจที่เราต้องเลือกในตอนนี้" แรทคลิฟฟ์ กล่าว
"ถ้าหากผมรู้สึกโมโหสักเล็กน้อย ผมก็ทนได้นะ แต่ผมก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วๆไปหรอก มันไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นกับเพื่อนและครอบครัว"
"ดังนั้นท้ายที่สุดถ้ามันไปถึงจุดเดียวกับที่ตระกูล เกลเซอร์ โดนด่าทอ ผมก็คงต้องบอกว่าพอคือพอ, ปล่อยให้คนอื่นจัดการแทน เกลเซอร์ เดินทางมาชมเกมไม่ได้เลย พวกเขาหลบไปเบื้องหลังสักพักแล้ว ผมก็เลยพบกับเสียงวิจารณ์ทั้งหมด"
"เราถูกดึงเข้ามาและนับตั้งแต่นั้นผมไม่ได้เจอพวกเขาเลย มันแค่ 'ขอบคุณนะ จิม คุณทำหน้าที่ได้ดีมากๆ' ในตอนนี้ผมไม่มีการ์ดรักษาความปลอดภัย ผมไม่ต้องเดินไปมาแบบนั้น แต่ถ้าถึงจุดนั้นก็ถือว่าไม่เป็นดั่งหวังใช่มั้ยล่ะ ถ้าถึงจุดนั้นแล้วก็ทนไม่ได้หรอก มันจะไม่สนุกเอาเสียเลย"
ปัจจุบันหนี้ทั้งหมดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกินกว่า 1 พันล้านปอนด์ซึ่งรวมถึงค่าตัวนักเตะที่ยังจ่ายไม่หมดอีก 300 ล้านปอนด์ และผลประกอบการปีก่อนพวกเขาควักเงิน 37 ล้านปอนด์จ่ายดอกเบี้ยของหนี้ก้อนดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ก็เพิ่งประกาศว่า "ปีศาจแดง" จะสร้างสนามใหม่มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ที่มีความจุ 100,000 ที่นั่ง

null null
(armphukrit)