
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุกๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 31 มี.ค.-14 เม.ย.68 init. 2025033012 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :
ช่วง 31 มี.ค.-4 เม.ย.68 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคอีสานและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลมฝ่ายตะวันตกยังพัดปกคลุมภาคกลางด้านตะวันตก และมีลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดสอบเข้าหากัน ปกคลุมบริเวณภาคกลาง กทม.และปริมณฑล ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง บริเวณประเทศไทยตอนบน ต้องเฝ้าระวังพายุฤดูร้อน พี่น้องเกษตรกรชาวสวนต้องเฝ้าระวัง พายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง สำหรับภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ช่วงวันที่ 1-4 เม.ย.68 จากลมตะวันออกที่พัดปกคลุม เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลอันดามัน ต้องเฝ้าระวัง และติดตามประกาศเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด อากาศที่ร้อนจัดคลายร้อนได้บ้าง
ช่วง 5-14 เม.ย.68 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ยังมีฝนสลับกับอากาศร้อน เป็นระยะๆ ทิศทางลมแปรปรวน และยังมีลมตะวันตกพัดปกคลุมทางภาคเหนือ ภาคกลางทางด้านตะวันตก ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ฤดูร้อนปีนี้คาดว่าอากาศจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว จะมีอากาศร้อนเป็นช่วงๆ และมีพายุฤดูร้อนมาสลับในบางวัน ต้องระวังพายุฤดูร้อน มาเร็ว แรง อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้ปริมาณในระยะนี้อาจจะไม่มากนัก แต่พอช่วยให้บางพื้นที่มีความชุ่มชื้น คลายร้อนได้ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่มีฝนน้อย หากมีฝนตกควรหาภาชนะสำรองน้ำไว้ใช้เพื่ออุปโภคและบริโภค ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรอาจยังไม่เพียงพอในฤดูร้อนนี้
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)

สรุปข่าว
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 - 31 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 30 - 31 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบน ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 1 – 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งในช่วงวันที่ 1 – 4 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 30 – 31 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ โดยมีอากาศร้อน
ส่วนในช่วงวันที่ 1 – 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 1 – 4 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มารูปภาพ : TNN

ธัญวรัตน์ น่วมภักดี