นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ค่าเกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ และพบว่ามีประชากรอยู่ในพื้นที่ PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน กว่า 38 ล้านคน ในจำนวนนี้ 15 ล้านคน เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และ 6 ล้านคน เป็นเด็กและเยาวชน มีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศสูงถึง 12 ล้านคน ส่งผลให้สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2 ล้าน 2 แสนล้านบาท
ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้หารือถึงมาตรการดูแลประชาชน เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยในการยกระดับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ระยะยาว จะต้องดำเนินการบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
สรุปข่าว
ฝุ่น PM2.5 กระทบประชาชน ป่วยแล้ว 12 ล้านคน มีเด็กเข้ารับการรักษาเฉลี่ยวันละ 2,670 คนโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร และน่าน ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
ด้าน นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ปี 2566 ประเทศไทยมีฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานใน 58 จังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร และน่าน ซึ่งสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ส่งผลให้อัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 10,521 ต่อแสนประชากรในปี 2563 เป็น 17,245 ต่อแสนประชากรในปี 2566 โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุ 0-9 ปี ที่ร้อยละ 58.2 อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และมีเด็กเข้ารับการรักษาเฉลี่ย 2,670 รายต่อวัน ซึ่งการได้รับฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่เจ็บป่วยเล็กน้อยถึงโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ และมะเร็งปอด
ขณะที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือให้โรงเรียนปรับเปลี่ยนกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การจัดการเข้าแถวหน้าเสาธง การแข่งขันกีฬา วิชาลูกเสือ หรือกิจกรรมสันทนาการกลางแจ้ง ให้เป็นกิจกรรมภายในอาคารแทน พร้อมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เรียน และครูเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 และหลีกเลี่ยงการออกจากอาคารในช่วงที่ฝุ่นละอองมีค่าความเข้มข้นสูง
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ติดตามสถานการณ์อากาศและได้กำชับทุกต้นสัปดาห์มาโดยตลอด และสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่กำชับกับ สพป. และ สพม.ให้อำนาจโรงเรียนใช้ดุลพินิจหยุดทำการเรียนการสอน โดยปรับเป็นรูปแบบออนไลน์ได้เต็มรูปแบบ ส่วนโรงเรียนโซนกลางเมืองที่มี "ห้องเรียนปลอดฝุ่น" มีมาตรการรับมือที่พร้อมสามารถทำการเรียนการสอนได้ปกติ โดยให้พิจารณายืดหยุ่นตามความจำเป็น ยึดถือเรื่องสุขภาพของเด็กเป็นหลัก