
วันนี้ ( 6 มี.ค. 68 ) ความคืบหน้าการพิจารณาว่าคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มีมติ 11 ต่อ 4 รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว ในกรณีฟอกเงิน
ก่อนหน้านั้น นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย หนึ่งในคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ แม้จะมีการแจ้งล่วงหน้าแล้ว

สรุปข่าว
อย่างไรก็ตาม การประชุมยังคงดำเนินต่อไปตามกำหนด เนื่องจากองค์ประชุมมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิครบถ้วน
ทั้งนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และประธานการประชุม DSI ได้แถลงว่า “เรามีมติชี้ขาดกรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงิน หรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก พ.ศ.2567 ตามที่ฝ่ายเลขาเสนอมา ตามมาตรา 21 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547”
“ส่วนคดีคดีอาญาใดที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าว ตามมาตรา 21 วรรค 2 เพื่อทำการสอบสวนต่อไป”
ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 47 วรรค 1 ให้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่ต้องมีมติดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ
ทั้งนี้กรณีที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญา เช่น คดีฟอกเงิน หรืออั้งยี่ซ่องโจร เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หากเป็นคดีที่ซับซ้อนและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และ อยู่ในอำนาจของ DSI โดยแต่ละหน่วยงานมีขอบเขตหน้าที่ที่ชัดเจนในการดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งอยู่ในอำนาจของ กกต. ซึ่งต้องดำเนินการตามหลักความสุจริตและเที่ยงธรรม

Chayapha Pakdeesri
(Chayapha)