เครือซีพีเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ดันความเท่าเทียมทางเพศ ชูบทบาทผู้นำหญิงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน

เครือซีพีเฉลิมฉลอง “วันสตรีสากล” ตอกย้ำองค์กรเคารพสิทธิ-ความเท่าเทียมทางเพศ ชูบทบาทผู้นำหญิงจากหลากกลุ่มธุรกิจ สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ไม่เลือกปฏิบัติ

เนื่องในวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสตรีสากล เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ ร่วมเฉลิมฉลองและตอกย้ำความมุ่งมั่นเพื่อการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้หญิงในองค์กร เปิดโอกาสให้ทุกเพศสามารถเติบโตและมีส่วนร่วมขับเคลื่อนองค์กรอย่างเท่าเทียม โดยเครือฯ ได้ประกาศนโยบาย ด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลาย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ที่ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ  โดยเครือฯ เปิดโอกาสให้ผู้นำหญิงจากหลากหลายธุรกิจในเครือฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการสนับสนุนสิทธิสตรี ผ่านนโยบายและโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียม สะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

เครือซีพีเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ดันความเท่าเทียมทางเพศ ชูบทบาทผู้นำหญิงขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน

สรุปข่าว

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เฉลิมฉลองวันสตรีสากล 8 มีนาคม ตอกย้ำการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ เปิดโอกาสให้ทุกเพศเติบโตและมีส่วนร่วมในองค์กรอย่างเท่าเทียม ผ่านนโยบายสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายที่ชัดเจน โดยมีสัดส่วนพนักงานหญิงถึง 51% และโครงการพัฒนาผู้นำแห่งอนาคตมีผู้หญิงเข้าร่วม 52% ซีพีให้สวัสดิการพิเศษแก่พนักงานหญิง เช่น ลาคลอดสูงสุด 180 วัน และมีพื้นที่ให้นมบุตร โดยซีพีเอฟได้รับรางวัล ASRA ด้าน Human ระดับ Gold ในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ ผู้บริหารหญิงจากหลากหลายธุรกิจในเครือฯ อาทิ ซีพี แอ็กซ์ตร้า, แอสเซนด์ มันนี่ และซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ต่างชูวิสัยทัศน์การสร้างความเท่าเทียม โดยเปิดโอกาสให้ทุกเพศแสดงความสามารถ ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรและสังคมอย่างยั่งยืน

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือซีพีตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม เพราะเครือซีพีเป็นองค์กรขนาดใหญ่มีพนักงานทั่วโลกกว่า 5 แสนคน การสนับสนุนส่งเสริมเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมจึงต้องทำเป็นระบบตั้งแต่การกำหนดนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารที่ให้ความสำคัญ ไปจนถึงการปฏิบัติได้จริงในระดับพนักงาน ซึ่งในปีที่ผ่านมาเครือฯ มีสัดส่วนของผู้บริหารชายและหญิงที่ใกล้เคียงกัน ในส่วนของระดับพนักงานพบว่ามีสัดส่วนของพนักงานหญิงรวม 51% มากกว่าพนักงานชายที่มีอยู่ 49% โดยเราได้มีการสร้างความสมดุลของบุคลากรเพศหญิงและเพศชายในระดับผู้บริหาร เช่น โครงการพัฒนาผู้นำแห่งอนาคต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการที่เป็นเพศหญิงถึงร้อยละ 52 แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมสิทธิสตรี เนื่องจากเชื่อว่าการพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคคลจะทำให้บุคลากรมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ยังมีการให้สวัสดิการเฉพาะพนักงานหญิง อาทิ ทรู ให้สิทธิลาคลอดได้สูงสุด 180 วัน แม็คโครและซีพีเอฟจัดให้มีสถานที่สำหรับการให้นมบุตรของพนักงาน เป็นต้น อีกทั้งในปีนี้ซีพีเอฟ ยังได้รับรางวัล Asia Sustainability Reporting Awards (ASRA) – สาขา Asia’s Best Sustainability Report ด้าน Human ระดับ Gold ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านอย่างเป็นรูปธรรม บนหลักการของความเท่าเทียม เคารพในความแตกต่างหลากหลาย เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน


ขณะที่ นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่ง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในแวดวงธุรกิจ ประจำปี 2567 จากนิตยสารระดับโลก “Fortune” เปิดเผยว่า “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ได้ดำเนินการนโยบายของเครือซีพี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลายทางเพศ โดยเครือซีพีและซีพี แอ็กซ์ตร้า เป็นองค์กรที่เปิดกว้างไม่ว่าเพศใดก็สามารถมีบทบาทสำคัญในองค์กรได้ โดยเฉพาะผู้หญิงให้ได้มีโอกาสนำศักยภาพมาใช้ในการทำงานได้อย่างเท่าเทียมกันตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงพนักงานในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง โดยซีพี แอ็กซ์ตร้ามีสัดส่วนของผู้หญิง 57% และมีผู้บริหารเพศหญิง 57% สิ่งสำคัญคือเราเปิดพื้นที่ และโอกาสให้ไม่ว่าเพศใดก็เอาความแตกต่างของตัวเองมาสนับสนุนการทำงานร่วมกันได้ ซึ่งจะทำให้องค์กรมีความแข็งแรง พร้อมส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าและสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ

ด้าน นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า เครือซีพี ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศและสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในองค์กรอย่างชัดเจน โดยมีนโยบายที่มุ่งเน้นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเติบโตบนพื้นฐานของความสามารถ โดยจากการที่บริษัทแอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านฟินเทค  คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าบริษัทฯ มีคนทำงานที่เป็นผู้ชายเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริง ผู้บริหารระดับสูงของ แอสเซนด์ มันนี่  กว่า 50% เป็นผู้หญิง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรของเราที่เปิดกว้าง เปิดโอกาสให้ทุกเพศ โดยให้ความสำคัญกับศักยภาพของบุคคลมากกว่าข้อจำกัดทางเพศ  นอกจากนี้ เรามองว่าการมีมายเซ็ทที่ยืดหยุ่นได้ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ด้วย เพราะหัวใจสำคัญของธุรกิจของแอสเซนด์ มันนี่ คือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  แอสเซนด์ มันนี่ เน้นการผลักดันและให้แรงบันดาลใจให้พนักงานของเราเกิดการเรียนรู้อยู่ตลอด พร้อมเปิดโอกาสให้คนทุกเพศในองค์กร รวมทั้งผู้หญิงได้แสดงความสามารถเต็มที่เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และพร้อมผลักดันนโยบายของเครือซีพีสู่ Tech Company อนาคต


นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น ระบุว่า “ซีพีเอฟซี” ไม่เคยมองเรื่องเพศมาเป็นตัวแบ่งแยก ไม่ว่าเพศใดไม่มีผลกระทบในการทำงานร่วมกัน ในหลายภาคส่วนขององค์กรมีการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้น  สิ่งหนึ่งที่เราทำเสมอในกลุ่มบริษัทที่ดูแล คือการใช้ความเป็นผู้หญิงในการส่งเสริมความเท่าเทียมในการทำงานร่วมกัน ผ่านการยึดโยงความสัมพันธ์ของคนในที่ทำงาน และแผนกต่าง ๆ เช่น เราไม่มีห้องทำงาน จะเป็นการนั่งทำงานร่วมกันไม่มีการแบ่งกลุ่มผู้บริหาร มีการให้กำลังใจ  มีการส่งเสริมการแสดงออกทางความคิดเห็นโดยไม่ปิดกั้น และเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน ทั้งพนักงานและผู้บริหารทุกคนสามารถพูดคุยกันแบบได้แบบจริงใจ เป็น “open communication” ทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม และสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของเครือฯ อีกด้วย

ที่มาข้อมูล : เครือเจริญโภคภัณฑ์

ที่มารูปภาพ : เครือเจริญโภคภัณฑ์

avatar

Praguyphun Youthasoontorn
(Praguyphun Youthasoontorn)